รายงานการประเมินโครงการสร้างภูมิคุ้มกันสารเสพติดและอบายมุขแก่นักเรียน โรงเรียนหาดสำราญวิทยาคม ปีการศึกษา 2561 – 2562

ผู้รายงาน           นางฉวีวรรณ  รักษ์แก้ว  ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนหาดสำราญวิทยาคม

ปีที่ประเมิน        2561-2562

บทสรุป

การประเมินโครงการสร้างภูมิคุ้มกันสารเสพติดและอบายมุขแก่นักเรียน โรงเรียนหาดสำราญวิทยาคม  ปีการศึกษา 2561 – 2562 ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินด้านบริบทหรือสภาพแวดล้อม ด้านปัจจัยนำเข้า  ด้านกระบวนการดำเนินงาน  และด้านผลผลิตของโครงการ

กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้ประกอบด้วย นักเรียน ปีการศึกษา 2561 จำนวน 224 คน และปีการศึกษา 2562 จำนวน 214 คน ครู ปีการศึกษา 2561 จำนวน 42 คน  และปีการศึกษา  2562  จำนวน 42 คน  ผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2561  จำนวน 224 คน  และปีการศึกษา 2562  จำนวน 214 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2561  และปีการศึกษา  2562  จำนวน  13 คน  และเครือข่ายชุมชน ปีการศึกษา 2561  และปีการศึกษา 2561  จำนวน 15 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมทั้งสิ้น 6 ฉบับ มีการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือทุกฉบับ ได้ค่าความเชื่อมั่นระหว่าง .924 – .982 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย   ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป SPSS for Windows V.18

ผลการประเมินพบว่า

1. ผลการประเมินด้านบริบทหรือสภาพแวดล้อมการดำเนินโครงการสร้างภูมิคุ้มกันสารเสพติดและอบายมุขแก่นักเรียน โรงเรียนหาดสำราญวิทยาคม  ปีการศึกษา 2561 – 2562  จำแนกตามกลุ่มผู้ประเมิน  ประเด็นตัวชี้วัด  ค่าน้ำหนัก  และเกณฑ์การประเมิน  พบว่า ความคิดเห็นของครู และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2561 และปีการศึกษา 2562 โดยภาพรวมทั้งสองกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด

2. ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า การดำเนินโครงการสร้างภูมิคุ้มกันสารเสพติดและอบายมุขแก่นักเรียน โรงเรียนหาดสำราญวิทยาคม  ปีการศึกษา 2561 – 2562  จำแนกตามกลุ่มผู้ประเมิน  ประเด็นตัวชี้วัด  ค่าน้ำหนัก  และเกณฑ์การประเมิน  พบว่า ความคิดเห็นของครู ปีการศึกษา 2561 และปีการศึกษา 2562 โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด

            3. ผลการประเมินด้านกระบวนการของโครงการสร้างภูมิคุ้มกันสารเสพติดและอบายมุขแก่นักเรียน โรงเรียนหาดสำราญวิทยาคม  ปีการศึกษา 2561 – 2562 ตามความคิดเห็นของนักเรียน  ครู  และผู้ปกครอง  ปีการศึกษา 2561 และปีการศึกษา 2562 โดยภาพรวมทั้งสามกลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด

            4. ผลการประเมินโครงการสร้างภูมิคุ้มกันสารเสพติดและอบายมุขแก่นักเรียน โรงเรียนหาดสำราญวิทยาคม  ปีการศึกษา 2561 – 2562 ในด้านผลผลิต ได้แก่

  4.1 ระดับคุณภาพการสร้างภูมิคุ้มกันสารเสพติดและอบายมุขแก่นักเรียน โรงเรียนหาดสำราญวิทยาคม  ปีการศึกษา 2561 – 2562 ตามความคิดเห็นของนักเรียน  ครู  ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และเครือข่ายชุมชนโดยรวมทั้งห้ากลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด

    4.2 พฤติกรรมนักเรียนที่สะท้อนคุณลักษณะการเป็นนักเรียนที่มีภูมิคุ้มกันสารเสพติดและอบายมุข ผ่านการประเมินระดับสถานศึกษาในปีการศึกษา  2561 ร้อยละ 76.47  และปีการศึกษา 2562 ร้อยละ 88.59 ผ่านเกณฑ์การประเมิน

    4.3 คุณภาพผู้เรียนตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน มาตรฐานที่ 1 ข้อ 1.2 คุณลักษณะ  อันพึงประสงค์ของผู้เรียน ผ่านการประเมินระดับสถานศึกษาปีการศึกษา 2561 อยู่ในระดับ ดีขึ้นไปร้อยละ 85 และปีการศึกษา 2562 อยู่ในระดับดีขึ้นไปร้อยละ 90 ผ่านเกณฑ์การประเมิน         

               4.4 ผลการประเมินด้านผลผลิตเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ในการดำเนินโครงการ ปีการศึกษา 2561-2562 ตามความคิดเห็นของนักเรียน  ครู  ผู้ปกครอง  คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และเครือข่ายชุมชน  ปีการศึกษา 2561 และปีการศึกษา 2562 โดยภาพรวมทั้งห้ากลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด

                4.5 ผลการประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการดำเนินการประเมินโครงการสร้างภูมิคุ้มกันสารเสพติดและอบายมุขแก่นักเรียนโรงเรียนหาดสำราญวิทยาคม  ปีการศึกษา 2561 – 2562 ของนักเรียน  ครู  ผู้ปกครอง  คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน  และเครือข่ายชุมชน ปีการศึกษา 2561 และปีการศึกษา 2562 โดยภาพรวมทั้งห้ากลุ่มที่ประเมินมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด

ข้อเสนอแนะ

            1. ข้อเสนอแนะในการนำผลการประเมินไปใช้

                1.1 ควรนำผลการประเมินโครงการมาวิเคราะห์หาจุดเด่น จุดที่ควรพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินโครงการมากยิ่งขึ้น

                1.2 โรงเรียนควรเร่งรัดกิจกรรมเยี่ยมบ้าน  เยี่ยมชุมชน และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายร่วมกันวางแผน ร่วมดำเนินการ  ร่วมกำกับติดตาม  ตรวจสอบและประเมินผล  และร่วมชื่นชมผลงานอย่างต่อเนื่อง

            2. ข้อเสนอแนะในการประเมิน/วิจัยครั้งต่อไป

               2.1 ควรนำรูปแบบซิปป์ (CIPP Model) ไปประยุกต์ใช้ในการประเมินโครงการอื่นๆ  ที่เป็นภาพรวมของโรงเรียน เพื่อตรวจสอบสภาพแวดล้อมของโครงการ ปัจจัยนำเข้าของโครงการ กระบวนการดำเนินโครงการ และผลผลิตของโครงการ โดยการประเมิน 3 ระยะ ได้แก่ ก่อนการดำเนินโครงการ ระหว่างดำเนินโครงการ และสิ้นสุดการดำเนินโครงการ เพื่อนำสารสนเทศที่ได้ไปใช้ในการวางแผนแก้ปัญหา หรือพัฒนาโครงการให้มีประสิทธิภาพ และก่อให้เกิดประสิทธิผลสูงสุดต่อผู้เรียน